วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ความรู้เกี่ยวกับ Search Engine

ความรู้เกี่ยวกับ Search Engine
-          ความหมาย   Search Engine  เป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมในการค้นหาเว็บต่างๆ โดยมีการเก็บ รายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของเว็บไซต์และนำมาจัดเก็บไว้ใน server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บาง search engine อาจไม่ได้มีการเก็บข้อมูลใน server ของตัวเอง แต่อาจอาศัยข้อมูลจากเจ้าของ server นั้นๆ
    ในปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นสื่อที่กำลังมาแรง ที่สุดในโลกไซเบอร์ หรือในโลกของ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะเสิร์ชเอนจิ้น ได้เข้ามามีบทบาท สำหรับการทำการตลาด บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การตลาดแบบออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมสูงที่สุด เนื่องจาก เสิร์ชเอนจิ้นจะเป็นเครื่องมือ ที่จะช่วยในการโปรโมทเว็บไซต์ ของธุรกิจต่างๆ ให้เป็นที่รู้จัก ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนการลงทุน ที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้น การทำการตลาด ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine Marketing) จึงเป็นทางเลือก ที่ผู้ประกอบการ ให้ความสนใจ ลงทุนเป็นจำนวนมาก
    เสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine) คือ โปรแกรมที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้เป็นตัวช่วย ในการค้นหาข้อมูล ที่เก็บอยู่ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ World Wide Beb (www) โดยเสิร์ชเอนจิ้น สามารถค้นหาข้อมูลที่ตรงกับ หลักการของโปรแกรม ซึ่งส่วนใหญ่นั้น จะเป็นการค้นหาข้อมูล ที่ผู้ใช้ค้นหาด้วยคำ คีย์เวิร์ด (Keyword) หรือจะเป็นประโยคสั้นๆ ซึ่งผลการค้นหาของเสิร์ชเอนจิ้น จะแสดงผลข้อมูลที่เหมือน หรือมีความคล้ายคลึงกัน โปรแกรมเสิร์ชเอนจิ้นนั้น ส่วนใหญ่จะมีการเก็บรวบรวม ฐานข้อมูลของตัวเองเอาไว้ในการสืบค้น ตัวอย่างเว็บเสิร์ชเอนจิ้น ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเช่น Google, Yahoo! Search, MSN Search เป็นต้น
 
                      ประเภทของ Search Engine
                       ประเภทที่ 1 Crawler Based Search Engines
 คือ เครื่องมือการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยการบันทึกข้อมูล และ จัดเก็บข้อมูลเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นจำพวก Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากให้ผลการค้นหาแม่นยำที่สุด และการประมวลผลการค้นหาสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน โดยมีองค์ประกอบหลักเพียง 2 ส่วนด้วยกันคือ
          1. ฐานข้อมูล โดยส่วนใหญ่แล้ว Crawler Based Search Engine เหล่านี้จะมีฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง ที่มีระบบการประมวลผล และ การจัดอันดับที่เฉพาะ เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างมาก
          2. ซอฟแวร์ คือ เครื่องมือหลักสำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Serch Engine ประเภทนี้ เนื่องจากต้องอาศัยโปรแกรมเล็กๆ ทำหน้าที่ในการตรวจหา และทำการจัดเก็บข้อมูล หน้าเพจ หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ในรูปแบบของการทำสำเนาข้อมูล เหมือนกับต้นฉบับทุกอย่าง ซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม  Spider หรือ Web Crawler หรือ Search Engine Robots เช่น www.google.com


ประเภทที่ 2 Web Directory หรือ Blog Directory 
                                                                                      
คือ สารบัญเว็บไซต์ที่ให้สามารถค้นหาข่าวสารข้อมูล ด้วยหมวดหมู่ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน ในปริมาณมากๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลือง ซึ่งจะมีการสร้าง ดรรชนี มีการระบุหมวดหมู่อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ตามหมวดหมู่นั้น ๆ ได้รับการเปรียบเทียบอ้างอิง เพื่อหาข้อเท็จจริงได้ในขณะที่เราค้นหาข้อมูล เพราะว่าจะมีเว็บไซต์มากมาย หรือ Blog มากมายที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันในหมวดหมู่เดียวกัน ให้เราเลือกที่จะหาข้อมูลได้อย่างตรงประเด็นที่สุด (ลดระยะเวลาได้มากในการค้นหา) ตัวอย่างเช่น

    1. ODP หรือ Dmoz ที่หลาย ๆ คนรู้จัก ซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่แห่งนี้เกือบทั้งสิ้น เช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีกมากมาย ODP มีการบันทึกข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลก รวมถึงภาษาไทยด้วย (URL : http://www.dmoz.org )
     2. สารบัญเว็บไทย SANOOK ก็เป็น Web Directory ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกัน และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองไทย(URL : http://webindex.sanook.com )





 ประเภทที่ 3 Meta Search Engine
คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษาHTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex Editor ด้วยภาษา HTML นั่นเองเช่น ชื่อผู้พัฒนา คำค้นหา เจ้าของเว็บ หรือ บล็อก คำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อ ผลการค้นหาของ Meta Search Engine นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิด เนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือ ผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บ หรือ บล็อกของตนเองและอีกประการหนึ่งก็คือ มีการอาศัย Search Engine Index Server
       หลาย ๆ แห่งมาประมวลผลรวมกัน จึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร
การค้นหาโดยใช้ จากหมวดหมู่ หรือ Directories การให้บริการค้นหาข้อมูลด้วยวิธีนี้ เปรียบเสมือนเราเปิดหน้าต่างเข้าไปในห้องสมุด ซึ่งได้จัดหมวดหมุ่ของหนังสือไว้แล้ว และเราก็ได้เดินไปยังหมวดหมู่ของหนังสือที่ต้องการ ซึ่งภายในหมวหมู่ใหญ่นั้น ๆ ยังประกอบด้วยหมวดหมู่ย่อย ๆ เพื่อให้ได้ข้อมุลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแบ่งประเภทของข้อมุลให้ชัดเจน เราก็จะสามารถเข้าไปหยิบหนังสือที่ต้องการได้ แล้วก็เปิดเข้าไปอ่านเนื้อหาข้างในของหนังสือเล่มนั้น วิธีนี้จะช่วยให้การค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น มีเว็บไซต์มากมายที่ให้บริการการค้นหาข้อมูลในรูปแบบนี้ เช่น www.siamguru.com  www.sanook.com , www.excite.com , www.hunsa.com


         วิธีใช้งาน และ web. Search Engine ของประเทศไทย
   การปฏิบัติในการค้นหาข้อมูลแบบ Directories สามารถทำได้ดังต่อไปนี้คือ
                   1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เป็น Search Engine ในช่องแอดเดรส เช่น www.sanook.com 
                   2. เลือกชื่อหัวข้อเรื่องที่ต้องการค้นหาข้อมูล เช่น การศึกษา จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย ดังนี้ โรงเรียน            สถาบันอุดมศึกษา สถาบันกวดวิชา และการสอนพิเศษแนะแนวการศึกษา
                   3. เมื่อคลิกที่หัวข้อเรื่องย่อยที่ต้องการ เช่น สถาบันอุดมศึกษา
                   4. จะปรากฏหัวข้อเรื่องย่อยของสถาบันอุดมศึกษา เช่น สถาบัน , มหาวิทยาลัยของรัฐ , มหาวิทยาลัยเอกชน , มหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นต้น ทำให้สามารถเลือกข้อมูลได้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด โดยไม่ทำให้เสียบเวลาในการเลือกข้อมูล เพราะ ได้จักเป็นข้อมูลไว้เป็นกลุ่มข้อมูลย่อย ๆ
                  5. นอกจากแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยของข้อมูล แล้วก็ยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกค้นหาข้อมูลอีกมากมาย
ตัวอย่าง  Search Engine


ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น sanook.com, siamguru.com, google.com, yahoo.com, msn.com, altavista.com, search.com เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น